วันศุกร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

10 อันดับลูกอมสุดอี๋ แหวะ

อันดับที่ 10

Ear Wax Candy: อมยิ้มขี้หู
เชื่อว่าหลายๆท่านสมัยเป็นเด็กเคยแคะขี้มูกมากิน หรือบางท่านโตแล้วทำงานแล้วก็ยังมีนิสัยนี้อยู่? …. แต่ผมว่าคนที่ชอบแคะขี้หูมากินก็ยังมีน้อยกว่านะเพราะมันลำบากกว่าแคะขี้มูก มากเลย เพราะฉะนั้นมีคนเค้าอำนวยความสะดวกให้คุณแล้ว โดยที่อมยิ้มนี้มาในหีบห่อเป็นรูปหูอย่างดี มีไซรับอยู่ตรงกลางที่เปรียบเสมือนรูหู พร้อมด้วยแท่งพลาสติกที่ทำเหมือนไม้แคะหูเพื่อที่จะได้ให้อารมณ์ในการแคะขี้ หูมากินสุดๆ วิธีกินก็ง่ายมากๆ เอาไม้ไปปั่นๆตรงไซรับแล้วก็เอามาดูดได้เลย…

อันดับที่ 9

Candy Scrabs: ท็อปฟี่พลาสเตอร์ปิดแผล
เด็กซนคือเด็กฉลาด เพราะฉะนั้นเด็กในอเมริกาจึงซนกันเกือบทุกคน (จริงรึเปล่า อิอิ) ทำให้ทุกคนเวลาเล่นก็จะมีแผลถลอกปอกเปิก แล้วโดยนิสัยเด็กเวลาเลือดไหลซิบๆก็ชอบเลีย…คุณก็เป็นหรือเปล่า!!?... เพราะฉะนั้นหากรสชาติเลือดมันไม่อร่อยแต่คุณอยากจะเลียแผลแล้วจะทำยังไงหละ! โอวววว โรคจิตมากๆ…ก็ซื้อขนมนี้เลยแล้วกัน เอาไปติดที่แขน พอลอกพลาสเตอร์ออกมาก็จะมีเจลรสสตอเบอรี่ให้คุณเลียๆๆๆๆ

อันดับที่ 8

Dubbel Zout: ยาไอซ์ปลอม
เด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า เราคงเคยเห็นเบียร์ปลอมของญี่ปุ่นกันแล้วที่จริงๆมันคือน้ำ apple ที่มีฟองเหมือนเบียร์ หรือของพี่ไทยเราที่มีหมากฝรั่งแมวดำที่ทำเหมือนบุหรี่ เพราะฉะนั้นในอนาคตถ้าจะติดยาไอซ์ก็ต้องฝึกกันตั้งแต่เด็กๆเลย! นี่คือยาไอซ์จำลอง ซึ่งจริงๆแล้วมันก็คือลูกอมรสชะเอมนั่นเอง แต่ทำให้มันดูเหมือนยาไอซ์ (เพื่ออะไรเนี่ย!?)

อันดับที่ 7

Hotlix Candy: เลียไป เสียวไป
ที่เมืองไทยอมยิ้มแบบนี้เคยฮิตมาก่อนแต่ตอนนั้นจะเป็นหนอน นี่มาแนวใหม่เอาแมงป่องมายัดซะเลย ก็อยากรู้เหมือนกันจะมีซักกี่คนที่กล้าอมจนถึงตัวแมงป่อง อิอิ

อันดับที่ 6

Gorilla Boogers: ขี้มูกกอริล่าแสนอร่อย
หีบ ห่ออันน่ารัก และแฝงไปด้วยความแปลกก็หนีไม่พ้นญี่ปุ่น นี่คือขนมขี้มูกกอริล่าซึ่งเปรียบกับของไทยก็จะมีลูกอมชื่อ ขี้ไคลจี้กง มีใครเคยได้ยินมั้ยเอ่ย? ทั้งสองอย่างก็ไม่ได้ทำมาจากของในชื่อมันจริงๆ ขี้มูกกอริล่านี้ทำมาจากถั่วดำตากแห้งนั้นเอง ลักษณะมันคงจะคล้ายเวลาเราเคี้ยวลูกเกด มันจะหนึบๆ หวานๆ อร่อยๆ คาดว่าเด็กญี่ปุ่นจะชอบกอริล่าพอสมควรโดยที่ไม่รู้จะผลิตอะไรมาเอาใจเลยทำ ขี้มูกออกมาขายซะเลย

อันดับที่ 5

Ant Candy: ลูกอมมด
ชิ้นนี้ก็เหมือนอมยิ้มแมงป่องข้างบน ตอนเคี่ยวน้ำตาลพอได้ที่ก็จับมดโยนๆลงไปในหม้อแล้วเอามาใส่แม่พิมพ์เอามาขาย เรา….อิอิอิ แบบนี้นั่งบี้มดบนโต๊ะกินเล่นก็ได้ไม่ต้องไปเสียเงิน

อันดับที่ 4

Jane-Jane Tasty Tuna tidbits: ลูกอมรสทูน่า
หลังจากนั่งหาเหตุผลว่าทำไมต้องทำลูกอมรสปลาทูน่ามาถึง 3 วัน ก็ยังคิดหาเหตุผลดีๆไม่ได้ว่าอะไรดลใจให้คนผลิตคิดจะทำลูกอมรสนี้ หรือจะเป็นเจ้าของโรงงานปลากระป๋องต้องการแตกไลด์สินค้า? ส่วนประกอบที่เขียนไว้ที่ห่อก็พื้นมากๆ ปลาทูน่า 30% น้ำตาล 70% จบ…

อันดับที่ 3

Crick-Ettes: จิ้งหรีดเคลือบซาวครีมและหัวหอม
หลังจากมาเที่ยวเมืองไทยและได้ลองเมนูแมลงที่ถนนข้าวสารไป ไอเดียก็บรรเจิดทันทีเพราะแค่ฉีดแม็กกี้มันไม่อร่อยเท่าไหร่ เอาไปเคลือบซาวครีมและหัวหอมแล้วทำขายเลยดีกว่า ถูกปากฝรั่งกว่าเยอะ!!! หลังจากทำออกมาขาย ยอดขายก็ยังโดน Pringles ทิ้งแบบไม่เห็นฝุ่นอยู่ดี

อันดับที่ 2

Durian Candy: ลูกอมทุเรียน
มันน่าน้อยใจยิ่งนักที่ราชาแห่งผลไม้ของไทยเราได้มาอยู่อันดับที่ 2 ของโผลูกอมน่าขยะแขยง!!! มีนักวิจารณ์อาหารชาวต่างชาติวิจารณ์รสชาติของทุเรียนหมอนทองและก้านยาวไว้ ว่า “เพียงแค่ได้กลิ่นก็เหมือนคุณได้กลิ่นขี้ของหมูที่เอาไป คลุกกับหัวหอมใหญ่เน่าแล้วเอาไปยัดลงถุงเท้าออกกำลังที่ไม่ได้ซักมา 3 เดือน!” เฮ้ย! มันขนาดนั้นเลยหรอ!!!

อันดับที่ 1

Beanboozled: Jelly bean กลายพันธุ์
Jelly bean นี่เอง เมืองไทยก็มีขายให้เกลื่อน อร่อยบ้างไม่อร่อยบ้าง แต่ทำไมมันน่าขยะแขยงที่สุดนะหรอ!? อย่าดูถูกมันถ้าคุณแกะกล่องแล้วเพิ่งกินไปได้ 2-3 เม็ดเพราะทุกกล่องจะแฝงไปด้วยรสชาติพิเศษที่แสนจะชวนอ้วกแตก เช่น รสตดสกังค์, รสชีสเน่าเฟะ, รสกระดาษเช็ดก้นเด็กที่ใช้แล้ว, รสไข่เน่า, รสอ้วก ฯลฯ ขอหยุดตรงนี้ก่อนเพราะแทบอ้วกแล้วเนี่ย ขอบอกว่ารสชาติแปลกๆที่กล่าวมานี้ทำได้เหมือนมากๆ ไม่เชื่อลองชิมดู แต่อย่าถามว่าแล้วเค้าทำรสชาติพวกนี้ได้ยังไง!? เพราะคำตอบที่ได้อาจจะทำให้คุณกลืนไม่ลง หึหึ



คุณล่ะอยากจะลองอมอันไหนบ้าง ?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น